เรารักพ่อหลวง

การวางเสา Architectural Column in Revit Architectural 2010

ไปเที่ยวต่างจังหวัดมาครับ ไกลมาก นครนายก เหอ ๆเหมือนไปเติมพลังกันครับหลังจากหมดแรงจาก ผลการประกวดแบบระดับประเทศ ไม่ขอเอยถึงว่าแบบอะไรแล้วกันนะครับเพราะ ผลออกมาแล้วก็ต้องยอมรับกันไป มาเริ่ม Training Revit Architectural 2010 กันดีกว่าครับ ( ภาพจะมาอัพทีหลังก็แแล้วกันนะครับ )

1.Project browser แล้วคลิกเลือกชั้นที่ต้องการจะสร้าง Column เสา
2.คลิกเลือก Click Home/ tabBuild panel/Architectural Column
3.สำหรับการเปลี่ยนและเลือกรูปแบบ ขนาดของ Column คลิกที่ Type Selector Choice เพื่อเลือกชนิดหรือ ขนาดที่ต้องการใช้งาน
4.ถ้าตรวจสอบดูแล้วใน Type Selector Choice ไม่มีให้คลิกเลือกเสาต้นใดต้นหนึ่งก่อนเพื่อจะทำการปรับแก้ ภายใน Element Properties ก็จะค่าและคุณสมบัติของ เสา เช่น Base Level ก็จะกำหนดว่าเสาถูกวางที่ชั้นไหน Base Offset จะกำหนดค่าความห่างระหว่างเสาและพื้น คือ ถ้าใส่ค่า 100 เสาก็จะยกขึ้นจากพื้น 100 แต่ถ้าใส่ -100 เสาก็จะลดลงจาก Level นั้น -100 ที่กำลังจะ จากนั้นหากต้องการแก้ขนาด และ สร้างใหม่ ให้กด Edit Type
5.Type Properties จากนั้น กด Duplicate
6.ตั้งชื่อตามขนาดที่ต้องการ เช่น 200 x 200 mm
7.ในส่วนของ Dimention แก้ตามขนาดที่ต้องการ Depth คือ ลึก ของ เสา และ Width คือความ กว้าง ของเสา จากนั้น กด Ok ออกมาเรื่อย ๆ จนถึงหน้าต่างการทำงาน
8.หลังจากเปิดมาที่หน้าการทำงานจากนั้นเลือก Type Selector Choice ประเภทของ เสา และ ขนาดที่ต้องการได้แล้ว ในตัวอย่างนี้คือ M_ Rectangular Column 200 x 200 mm
9.จากนั้นวางในตำแหน่งที่ต้องการครับ
การ Copy Column
10. เราสามารถที่จะ Copy เพื่อวางในตำแหน่งต่อไปในกรณีที่ระยะของ Grid ที่ต้องการโดย คลิกที่ Column
11. จากนั้นให้คลิกคำสั่ง Modify/ Copy
12. แล้ววางใน ตำแหน่ง ที่ต้องการก็เสร็จเรียบร้อยครับ
Note : 1. ขณะที่. Copy หากต้องการ Copy ได้หลายๆ ครั้งก็คลิก ถูกที่ช่อง Multiple ตรง Options Bar

สัญญาว่าจะมาอัพเดตให้

เตรียมข้อมูลก่อน

101109

จองเลขไว้ก่อนนะ

อยากเห็นท้องฟ้าเป็นอย่างวันนั้น Gripic Display Option in Revit Architect 2010

วันนี้วันดีครับ 091109 ผมบ้าเลขนะครับแต่ไม่เล่นหวยนะ ผ่านมา 30 ฝน ถูกหวย 2 ครั้งแต่เลขดีใช่ว่าจะมีแต่สิ่งดี ๆ ในวันนี้มีทั้งดีและร้าย จดจำแต่เรื่องดี ๆ ไว้แล้วกันนะครับ ว่าแล้วก็พูดถึง Revit Architect 2010 ดีกว่า
แม้คำสั่งบางคำสั่งใน Revit Architect 2010 จะถูกถอดออกไปด้วยตุผลอะไรก็แล้วแต่ แต่ก็มีตัวอื่นมาทดแทนกัน แม้จะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ก็ต้องทำใจเพราะไม่ใช่คนเขียนโปรแกรมเองเหอ ๆ เช่น คำสั่ง Gripic Display Option นี้ ผมไม่แน่ใจว่ามันมีมาตั่งแต่ Revit Architect 2009 หรือเปล่า แต่ผมพึ่งมามีโอกาสได้ใช้ก็ตอน Revit Architect 2010 เพราะไปเห็น งาน ตัวอย่าง หนึ่ง ของ คุณ Bazara ใน เว็บ thaibim อารมย์อยากได้บ้างก็บังเกิดครับ ก็เลยถามน้องที่ ออฟฟิส ที่ทำงานด้วยกันน้องบอกไม่ยาก ปอกกล้วยยากกว่า เอ้างั้นเริ่มเลย
1.หลังจากเราเปิดรูป 3d View ท้องฟ้าในหมวดของ Shading with Edges ก็เป็นสีขาวด้วย ค่ามาตรฐานของโปรแกรมมันครับ เราทำการปรับเปลี่ยนด้วยการ คลิกที่หน้าจอ View Properties

2.Instance Properties ในหมวดของ Gripic Display Option คลิกตรง Edit



3.Background คลิกถูกครับ เพื่อให้แสดงผลเป็นสี สามารถปรับเองได้นะครับ ถ้า โอ แล้วก็ OKครับ



4.สุดท้ายท้องฟ้าที่สดใสของเราก็จะปรากฎให้เห็นดังภาพครับท่านผู้ชม แต่มันจะโชว์แค่ วิวนี้เท่านั้นนะครับ วิวอื่นต้องทำอีกครั้งครับ

ถอดต้อง ต้องถอดแบบบานประตู Schedule Door In Revit Architect 2010

วันนี้ไปได้ไปไหนครับ พยายามป้องกันตัวจากสิ่งที่จะต้องเสียเงินมากที่สุดก็ต้องไม่ต้องออกไปไหนเป็นวิธีง่าย ๆ ของผม ก็เลยหาบทความที่ดูง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากมากนักมาเขียนดีกว่าก็เลยคิดถึง Schedule
หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วใน Project ที่เราทำอยู่เนี้ยะเมื่อเสร็จแล้วเราจะทราบได้มั้ยว่าใช้ประตู ไปกี่บาน ราคา โดยประมาณ เท่าไหร่ ซึ่งแน่นอนครับ Revit Architect 2010 ทำได้ ซึ่งก็ทำได้มาตั้งแต่ เวอร์ชั่นแรก ๆ ครับ อันที่จริงแล้วคำสั่งนี้ก็สามารถทำได้อีกเยอะครับเดี๋ยวค่อยอธิบายในบทต่อ ๆ ไปดีกว่าเริ่มเลย
1.ในส่วนของ แถบเครื่องมือ View ให้คลิกที่คำสั่ง Schedule / Quantities
2.New Schedule ในช่องCategory เลือก Door จากนั้นกด Ok





3.ให้เลือกรายการFamily and Type แล้วกด Add เพื่อให้รายการย้ายไปที่ช่อง ขวามือ ดังรูป จากนั้นเลือก Count และ Cost หากต้องการ รายการไหนอยู่หน้าหรืออยู่หลัง ก็กด Move Up ,Move Down ได้เลย



4.ให้คลิกที่แท็บ Sorting / Grouping มนส่วนของ ของ Sort by ให้เลือก Family and Type เพื่อให้ ประตูแยกตามหมวดของประเภท คลิกเครื่องหมายถูกทั้ง Grand total ,Itemize every instance

หมายเหตุ : ในส่วนของ Grand totals ให้คลิกถูกเพื่อให้ตารางรวมประเภทที่เหมือนกันทั้งหมด เช่น มีประตูบานเปิดประเภทบานเปิดเดี่ยว อยู่ใน Project อยู่ 10 บานก็ให้รวมในตารางเดียวกันเลย ประโยชน์เพื่อไม่ให้ตารางยาวเกินไปนัก หรือ หากต้องการแยกเป็น บาน ๆ เลย ก็คลิกถูกแค่ในช่อง Itemize every instanceได้เลย

5.ในช่องของ แท็บFormatting คลิกที่ Count ในช่อง Fiedls แล้วคลิกถูกที่หน้าช่องCalculate totals เพื่อให้ตารางคูณจำนวน ประตูออกมาทั้ง Project จากนั้น คลิกที่ Cost คลิกถูกที่หน้าช่อง Calculate totals เช่นกันครับ



6.หลังจากนั้นก็จะได้ตาราง ข้อมูล ของประตู ออกมาตามที่เลือก จากนั้นตารางประตูนี้จะอยู่ใน Project Browser ในหมวดของ Schedule / Quantities

ไม่เห็นจะยากการเพิ่มประตูในแบบ Adding Door Revit Architect 2010

ช่วงนี้งานเข้าสุด ๆ เมื่อวานกลับบ้านนอนเลย กะตื่นมาดูบอล ตื่นมาได้ดูแล้ว อยากนอนต่อไม่น่าลุกขึ้นมาดูเลย ข้างห้องก็ทะเลาะกัน นอนไม่หลับ ไม่ได้มาอัพ Revit Architect 2010 เสียนานวันนี้มาเอาแบง่าย ๆ

แล้วกันเนอะก้แค่เรื่อง Adding Door Revit Architect 2010 เริ่มเลยดีก่า
1.ที่แถบเครื่องมือ Home menu คลิก Door



2.เลือกที่รูปแบบ ประตูที่ Change Element Type ก็จะชื่อ และ รูปแบบ ของบานประตู
3.หลังจากเลือกได้แล้ววางเคอร์เซอร์ไว้บนผนังด้านที่ต้องการวางประตู จะเห็นว่าผนังในส่วนที่วางตำแหน่งประตูจะหายไปทันที ( ระยะและทิศทางในการเปิดสามารถแก้ไขได้ในภายหลัง )




4.การแก้ไขทิศทางบานเปิด คลิกที่บานประตู จากนั้น คลิกที่ เครื่องหมายลูกศร ตำแหน่ง A เพื่อกลับด้านของประตูจากซ้ายไปขวา Flip the instance hand

หมายเหตุ หากกด Spec Bar จะทำให้ประตูปรับทั้งทิศทางการกลับด้าน และ เปิดด้านในหรือเปิดด้านนอกจะหมุนไปเรื่อย ๆ

การใส่สัญลักษณ์แบบสายฟ้าแลบ Tag all in Revit Architecture 2010

091011 วันนี้เลขก็สวยขอแปะไว้ก่อนเดี๋ยวมาอัพเดท หุ หุ ๆ จองเลข
วันนี้ มีเรื่อง ดี ๆ เกิดขึ้นหลายอย่าง แฟนโทรมา งานเลื่อนวันคุย ( อันนี้ดีเปล่าหว่า เงินก็จะได้ช้าด้วย )Revit Architecture 2010 ขั้นตอนที่สำคัญขั้นตอนหนึ่ง หากต้องการให้แบบดูสมบูรณ์ก็ต้องมีการใส่ รายละเอียด ระยะ และ สัญลักษณ์ ต่าง ๆ เช่น ของประตู หน้าต่าง ถ้าให้ต้องมาคอย คลิกทีละบานเห็นจะไม่ไหว ใน Revit Architecture 2010 มีอยู่ 1 ที่ผมชอบมากเป็น การใส่สัญลักษณ์แบบสายฟ้าแลบ คำสั่งที่ว่านั้นคือ Tag all
1.ในตัวอย่างนี้จะเป็นการใส่ สัญลักษณ์ ของประตู หน้าต่าง พร้อมกัน คลิกคำสั่ง Annotate / Tag all ใน แถบการใช้งานของ Revit Architecture 2010 เพื่อการลดเวลาในการทำงานใส่ สัญลักษณ์



2.จากนั้น Revit Architecture 2010 จะเปิดหน้า Tag all Not Tagged



3.Revit Architecture 2010 จะแสดง สัญลักษณ์ ทั้ง ประตู และ หน้าต่างให้ทันที ดังภาพ
เยี่ยมจริง ๆ

091009

วันดี

ก้าวทีล่ะขั้นกับส่วนประกอบของบันได properties Stair Revit Architect 2010

หายไปนานครับช่วงนี้ไม่ได้อัพเดท blog Revit Architect 2010 สาเหตุมาจากหลายอย่างครับ ทั้งงานในออฟฟิส และ งานนอกออฟฟิส เลยทำให้ไม่ได้หาข้อมูลมาเพิ่มเลย อิ ๆ แต่วันนี้จัดการงานทั้ง 2 ได้ระดับหนึ่งล่ะ แต่พออัพเดท blog Revit Architect 2010 เสร็จก็คงต้องไปเตรียมงานของวันพรุ่งนี้ต่อ สู้ ๆๆ นะครับ ทุกคน
เอาล่ะครับ วันนี้ผมจะมาพูดถึง บันได Stair ใน Revit Architect 2010 แต่จะนำเสนอข้อมูลพื้นฐานเสียก่อน คือส่วนประกอบต่างใน บันไดมีอะไรบ้าง เพราะถ้า มาตรฐานของบันไดใน Revit Architect 2010 เริ่มกันเลยครับ




1. ระยะความกว้างของบันได
2. จำนวนขั้นบันไดโปรแกรมคำนวนไว้เช่น ต้องมี บันได 19 ขั้น บันไดจึงจะถึงพื้นชั้น 2
3. จำนวนขั้นบันไดที่เราเขียน เช่น ถ้าเลขแสดง 18 ก็แสดงว่าเราขียนแค่ 18 ขั้น บันไดจะไม่ถึงพื้นชั้น 2
4. จำนวนความสูงของขั้นบันไดที่โปรแกรมคำนวนออกมาซึ่งเกี่ยวเนื่องกับ ข้อ 2 จำนวนขั้นบันได คือ 19 x184.2 = ความสูงของชั้น 1ระยะห่างถึงชั้น 2 คือ 3500
5. ความกว้างของ ลูกนอนบันได



6. หมวดของ การใส่ วัสดุ ทั้ง ลูกตั้ง ลูกนอน และ แผ่นปิดไม้บันไดทั้งด้าน ซ้าย และ ขวา ของบันได
7. ความกว้างของ ลูกนอน บันได
8. ความหนาของ ลูกนอน บันได
9. ระยะยื่นของ จมูกบันได
10. รูปแบบของ จมูกบันได โดยสามารถเลือกได้ว่าจะใช้รูปแบบไหน หรือ สร้างเพิ่มเข้ามาได้
11. ความสูงสุดของลูกตั้งบันได
12. รูปแบบของลูกตั้งบันได
13. ความหนาของ ลูกตั้ง บันได
14. รูปแบบของการเชื่อมต่อระหว่างลูกนอนและลูกตั้งบันได
15-16. การเปิด หรือ ปิด และ ไม่ต้องการแสดงของแผ่นไม้ขนาบปิดบันได
17. ความหนาของ ของแผ่นไม้ขนาบปิดบันได
18. ความสูง ของแผ่นไม้ขนาบปิดบันได

090909 กับ การแก้ไขหากมีผนังโผล่เกินหลังคา Top / Base Attach in Revit Architecture 2010

วันนี้วันที่ 090909 เลขสวยมากครับ หลายคนอาจเลือกวันนี้เริ่มทำอะไรหลายอย่าง เช่นแต่งงาน เปิดร้าน บ้างก็ว่าเป็นเลขที่ไม่ดีเหมือนกัน แต่สำหรับคนไทยเรา เลข 9 สำคัญครับเพราะเป็นเลขของ รัชกาลที่ คนไทยเรารักและเคารพขอองค์ทรงพระเจริญ
วกมาเรื่อง Revit Architecture 2010 บ่อยครั้งที่สร้างหลังคาขึ้นมาจะมีผนังโผล่ขึ้นมาทุกครั้งมีวิธีแก้โดยใช้ Top / Base Attach

1.คลิกที่ผนังที่โผล่เกินออกมา เลือก ผนังหลายชิ้นให้กด Ctrl จากนั้น Revit Architecture 2010 จะเปิด แถบ Modify Wall ขึ้นมาเลือกคำสั่ง Top / Base Attach



2.จากนั้นคลิกที่ หลังคา ที่ต้องการให้ผนังชน



3.โปรแกรม Revit Architecture 2010 จะสั่งผนังที่โผล่เกินหลังคาก็จะหายไป

050909

วันเกิดผม

Import dwg. File to Revit 2010

1.คลิก Insert tab / Import panel / Import CAD, หรือคลิก Insert tab Link panel / Link CAD.

2. โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างการทำงานของ Link CAD format ขึ้นมาให้คลิกเลือก File DWG. ที่เตรียมไว้จากนั้น
• Current View Only หากคลิกถูก ไฟล์ที่เลือกจะถูกโชว์แค่วิวที่เรากำหนด ( ระดับพื้นชั้น 1 )
• Colors เลือก Invert สีของ Layer จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นสีใน Revit
• Layers เลือก All ทุก Layers ที่ซ่อนอยู่จะถูกโชว์ทันทีเมื่อถูกดึงเข้ามาใน Revit
• Import Units เลือกเป็น millimeters เพื่อปรับสเกลให้เข้ากับการทำงานขอโปรแกรม
• Positioning เลือก Manual – Center ตำแหน่ง
• Place at จะถูกกำหนดโดยอัตโนมัติเป็น ระดับพื้นชั้น 1 กด Open


3.จากนั้นโปรแกรมจะดึง File ที่เป็น DWG.เข้ามาเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับ Revit


4.หลังจากนั้นทำการตรวจสอบ ว่า Scale ถูกต้องหรือไม่ให้ใช้คำสั่ง Dimention ที่ innotation ตรวจสอบระยะว่าถูกต้องเหมือนใน AutoCAD

Render in Autodesk Revit 2010 ของเก่ามาปรับใหม่

วันนี้อันที่จริงตามตารางจะมีการ Training Advand Revit Architect 2010 แต่ห้องที่จะใช้มีการใช้อยู่แล้ว เลยต้องเลื่อน ไปอีก 1 วัน แต่เมื่อวานมีการ Training Basic Revit Architect 2010 พรุ่งนี้ก็มีนะเหอ ๆ วันนี้ก็เลยเอางานเก่าที่เคยทำใน Revit Architect 2008 มา Render ซะหน่อยผมก็แค่
1.เปิดภาพ 3D view ที่ต้องการที่จะ Render ขึ้นมา
2.คลิกเรียกคำสั่ง Rendering บน View Control Bar หรือ keyboard shortcut RR


3.คลิก Rendering จากนั้นโปรแกรมก็จะทำการ Render โดยจะมีเปอร์เซ็นต์ให้ทราบว่า Render ทำกี่เปอร์เซ็นต์แล้วเมื่อครบ 100 ปอร์เซ็นต์ก็จะได้ภาพขึ้นมาทันที
4.คลิก Save to Project หากต้องการเซฟภาพ Render ไว้ในโปรเจ็ค

5.กด ตั้งชื่อภาพ จากนั้นภาพที่สร้างขึ้นจะไปอยู่ที่ Project Browser อยู่ในหัวข้อ Rendering หากคลิกที่ชื่อ ก็จะภาพที่ Render

ลืมฝ้า ไปรึเปล่า Ceiling Plan in Revit Architect 2010

วันนี้ฝนตกตอนเย็น ขณะที่เขียน นี้มันก็ยังไม่หยุดเปิดห้องไม่ได้เพราะฝนสาด ตอนบ่ายออกไปร้านหนังสือ มา กะว่าสิ้นเดือน จะซื้อสัก 2-3 เล่ม ราคาเล่มล่ะ เกือบ 200 บาทต้องอดกี่วันวะเนี้ยะ
เกือบลืมไปเสียถนัดบทก่อน สอนการสร้างแปลนพื้น ใน Revit Architect 2010 ไปแล้ว แต่ดันลืม แปลน ฝ้าไป การเขียนแปลนฝ้าใน Revit Architect 2010 ก็ง่ายมากครับ
ไม่มีอะไรมากถ้าเรามีแปลนพื้นอยู่แล้วก็ทำตามผมดังนี้ได้เลยครับ แต่ถ้าใครคิดว่าจะเปิดฝ้าโล่ง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีแปลนฝ้าก็ข้ามบทความนี้ รอบทความอื่นได้เลยนะครับ

1.สังเกตุที่ Project Browse ใน Floor Cilling จะยังไม่มี แปลนฝ้า

2.และสำหรับ Ceiling Plan วิธีการจะเพิ่ม ใน Project Browse นั้นทำได้โดยการ การ View / Create / Ceiling Plan

3.ในช่อง New RCP จะมีชื่อชั้นที่ คัดลอก อยู๋ให้ คลิกที่ชั้นทั้งหมด กด CTRL จากนั้นกด OK

4.Project Browse ใน Ceiling Plan จะมีชื่อชั้นเพิ่มเข้ามาทันที

ถ้าเราสร้าง Grid ไว้ใช้เอง( Grid in RevitArchitect 2010 )

สาเหตุที่เกือบอาทิตย์แล้วไม่ได้มาอัพเดทแล้วเพราะเนื่องจาก ทีมรักแพ้ เปิดมานัดแรกแพ้เลย ครับเฮ้อ มันก็เลยไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเท่าไหร่ แต่ ชีวิตมันต้องก้าวต่อไปครับว่ามั้ยครับ
มาคุยเรื่อง RevitArchitect 2010 กันดีกว่าครับเนอะ หลังจากครั้งที่แล้วได้ สร้าง ระดับชั้น Level ไปแล้ว ครั้งนี้ก็มาถึงคราวของ Grid ใน RevitArchitect 2010 กันแล้วครับอย่าให้เสียเวลาเลยครับเริ่มกันเลย
การเขียน Grid
1. การสร้าง Grid ใน Revit Architect 2010 คลิก Home tab / Datum panel /Grid หรือ Keyboard shortcut GR



2. จากนั้นโปรแกรม Revit Architect 2010 จะเปิด Grid tab / Draw panel จะมีตัวเลือกว่าจะใช้คำสั่งอะไรเลือก คำสั่ง Line ( คำสั่งอื่นจะสอนในบทต่อๆ ไป ครับ )



3. การเขียน Grid เลื่อน เคอร์เซอร์มาในพื้นที่การทำงานหลังการนั้นคลิกซ้ายวางในพื้นที่ใน
การทำงาน ขณะที่เราลากเส้น สังเกตว่าจะมี สํญลักษณ์ของ Grid ติดที่ปลายของเส้น ดังภาพ
และใน สัญลักษณ์นั้นจะมี ตัวหนังสือขึ้นมาโดยอัตโนมัติ


4. การเขียนเส้น Grid ก็ใช้วิธีการเดียวกันกับที่เขียน ในแนวตั้งเพียงแต่เส้นแรกของแนวนอนเราต้องแก้ไขตัวหนังสือ ในหัวสํญลักษณ์ของ Grid เสียก่อนการแก้ไขตัวหนังสือสามารถที่จะนำเลื่อน เคอร์เซอร์มาคลิกซ้ายที่เส้น Grid ที่จะ แก้ไขให้เกิดจะปรากฏเป็นสีแดงที่เส้น Grid คลิกที่ตัวหนังสือแล้วแก้ไขตัวหนังสือใด้เลยดังภาพ


5. จากนั้นเขียนเส้น Grid แนวนอน ให้เสร็จตามแปลนที่ต้องการเพื่อที่จะวางเสาต่อไปดังภาพ เท่านี้ก็ถือว่าเขียน ว่า Gridโปรแกรม Revit Architect 2010 เสร็จแล้วครับ

ไม่พอใจชั้นแก้ไขได้นะ ( Edit Level in Revit Architecture 2010 )

วันนี้เป็นแม่ของประเทศไทยเรา ที่ๆผมอยู่นี้ตอนช่วงหัวค่ำ มีการยิงปืน หลายลูกเพื่อเฉลิมฉลองวันแม่ของเรา ครับวันนี้เป็นวันหยุดตอนช่วงช้าจัดห้องใหม่( อีกแล้ว ) ได้อ่านหนังสือ Live Love Laugh ของ a book ที่กัดฟันซื้อเล่มล่ะ 495 บาทแต่ก็ดใจที่ได้ซื้อมาชอบ ๆ วันหลังจะเล่าให้ฟังว่ามันมีไรน่าสนใจในนั้น แต่วันนี้มาคุยเรื่อง Revit Architecture 2010 ดีกว่าถ้าใครได้ลองทำตามเมื่อบทความที่ล้วเกี่ยวกับการสร้าง ชั้น Level ใน Revit Architecture 2010 ไปแล้วอาจจะติดตรงอยากจะแก้ไข สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้งาน Revit Architecture 2010 เริ่มตามผมได้เลย
1.ความสูงของระดับชั้น Level และ ชื่อชั้นต่างๆ นั้น สามารถแก้ไขได้ในภายหลังการแก้ไข สำหรับระดับชั้น Level ใน Revit Architecture 2010 เปิดรูปด้านใด ด้านหนึ่งขึ้นมา แล้วก็คลิกที่ที่ตัวเลขให้กลายเป็น สีน้ำเงิน แล้วใส่ตัวเลขระดับความสูงที่ต้องการได้เลย ชื่อชั้นก็เช่นกันคลิกชื่อเดิมให้กลายเป็น สีน้ำเงิน แล้วใส่ชื่อชั้นที่ต้องการได้เลย ชื่อชั้นใน Project Browse ก็จะปรับตามโดยอัตโนมัติ


2.สังเกตุที่ Project Browse จะมีชื่อชั้นที่ถูกสร้างเพิ่มเข้าไปทันที


3.ชื่อชั้น ทับซ้อน Revit Architecture 2010 กันให้คลิก ที่เส้น ระดับชั้นจากนั้นให้คลิกที่ จุดหักตามภาพประกอบเส้นบอกระดับตรงชื่อชั้น จะ หักหลบลงให้ทันทีตามภาพครับ



4.แต่หากในทางกลับกันหากต้องการให้หักหลบขึ้นด้านบน หลังจากคลิกที่จุดหักตามปกติแล้ว ชื่อชั้นจะหักลง วิธีการแก้ให้หักขึ้นด้านบนคือ คลิกซ้ายที่จุดหักค้างไว้แล้วลากขึ้นได้เลยตามภาพ


5.การคัดลอกเพิ่ม ระดับชั้น Revit Architecture 2010 การคัดลอกเส้นเพิ่มระดับชั้น สามารถทำได้โดยคลิกที่เส้นระดับชั้นจากนั้นให้คลิกคำสั่ง Copy หรือ Shortcut LL บน Modify Levels

6.บน Option bar ให้คลิก ถูกลงในช่อง Multiple เพื่อที่จะคัดลอกได้อีกครั้งโดยไม่ต้องคลิกคำสั่ง Copy อีกครั้ง
จากนั้นดึงระดับชั้นที่ต้องการเพิ่มไปในทิศทางที่ต้องการ เนหากให้สูงขึ้นก็ลากขึ้นด้านบน แต่ หากต้องการให้ระดับชั้นต่ำกว่าระดับชั้นเดิมก็ลากลงใน ทิศทาง ด้านล่าง ( หรือ จะแก้ตัวเลขระดับชั้นในภายหลังก็ได้ )


7.แต่สังเกตุว่าเส้นบอกระดับชั้นเดิมจะ สีน้ำเงิน แต่ตัวที่ เพิ่มมานั้นจะยังสีดำอยู่ และจะยังไม่มีชื่อชั้นที่เพิ่ม เข้ามาใหม่ใน Project Browse

8.วิธีการจะเพิ่ม ชั้น ที่สร้างใหม่ใน Project Browse นั้น ทำได้โดยการ View / Create / Floor Plan

9.ในช่อง New Plan จะมีชื่อชั้นที่ คัดลอก อยู๋ให้ คลิกที่ชั้นทั้งหมด กด CTRL จากนั้นกด OK


10.เส้นบอกระดับชั้น ใน Revit Architecture 2010 จะกลาย สีน้ำเงิน และใน Project Browse ใน Floor Plan จะมีชื่อชั้นเพิ่มเข้ามาทันที


เห็นมั้ยครับระชั้นแก้ไขได้จริง ๆด้วย ไม่พอใจชั้น ชั้นแก้ได้แค่นี้เราก็ไปด้วยกันได้แล้ว ถ้าถามว่าการ์ตูนไปไหน ช่วงนี้มันไปเที่ยวครับยังไม่อยากออกงาน