เปลียน ๆ อีกแล้ว User Interface Revit Architecture 2010

วันนี้เป็นวันตรวจสุขภาพประจำปีของบริษัท เค้าบอกให้งดน้ำ และ อาหาร 8 ชม.ก่อนตรวจ อาจจะนับหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไปก็ได้ แต่ผมไม่เชื่อหรอก ก่อนออกจากห้อง ดื่มน้ำก่อนเลยเพราะวันนี้ต้องตรวจ ปัสสะวะด้วย เมื่อปีที่แล้วกว่าผมจะฉี่ได้ก็ 2 ชม. ช่วงเช้ามีตรวจสุขภาพ ช่วงบ่ายนัดประชุมใน ทีม Revit วันนี้เรามาคุยเรื่อง User Interface Revit Architecture 2010 กันดีกว่าครับหลังจากคราวที่แล้วพูดถึงแค่ Ribbon



1. Application Menu เป็นเมนู พื้นฐานสำหรับการใช้งานโปรแกรมแทบทุกโปรแกรม เช่น New ,Open , Save , Save As , Export , Publish , Print, Licensing, Colse ซึ่งคำสั่งเหล่านี้ล้วนมีไว้เพื่อ การจัดการทำงานในโปรแกรม Revit Architecture 2010

2.Quick Access เป็นเมนูที่จะแสดง Icon คำสั่งย่อ ที่เราต้องการใช้งานเป็นประจำเพื่อความรวดเร็วในการทำงาน

3.Ribbon จากเดิมใน Revit Architecture 2009 จะเป็น Design Bar ทางด้านซ้ายของหน้าต่าง Revit Architecture 2010 นี้ก็ปรับให้มาอยู่ด้านบน โดยมีรูปแบบการทำงานแบบ Ribbon รูปแบบการทำงานแบบนี้ถูกนำมาใช้แล้ว ตั้งแต่ Autocad 2009 และ ถ้าหากใครใช้ โปรแกรม Office ต่าง ๆ ของ Microsoft ก็จะพบว่าเป็นรูปแบบเช่นเดียวกัน เราเรียกว่า Ribbon และใน Ribbon นี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 แถบคำสั่ง Tab ที่ใช้ในการออกแบอาคาร

4.Tab เครื่องมือ 8 Tab ที่ใช้สำหรับการสร้างอาคารใน Revit Architecture 2010 คือ Home, Insert , Annotate , Modify Massing & Site Collaborate, View , Manage การใช้งานเช่น แถบ Home จะเป็นแถบเครื่องมือที่รวมเครื่องมือพื้นฐานที่จำเป็นในการสร้างอาคาร เป็นต้น

5.Panel จะเป็นชื่อรายการต่างๆในแถบเครื่องมือ จะเห็นได้ว่าเมื่อคลิกคำสั่ง แต่ละ Tab จะมีรายการต่างๆ แยกย่อยออกมาไม่ซ้ำกัน แล้วแต่ Tab ที่เลือก เช่น แถบ Home จะมี 7 Panel ใน 1 Panel จะมี Tool ในการทำงานแยกออกไปอีก

6.Tool คือคำสั่งที่มีใช้งานเพื่อสร้างองค์ประกอบต่างๆ ของอาคาร ซึ่งก็จะอยู่ในส่วนของ Panel ต่างๆ

7.Project Browser ใช้สำหรับการแสดงผลทั้งหมดของการสร้างงานแบบอาคาร เช่น ผังพื้น Floor Plan , รูปด้าน
Elevation ,รูปตัด Section เป็นต้น อีกทั้งใช้สำหรับการบริหารงานฐานข้อมูลของสัญลักษณ์ และ วัตถุสำเร็จรูปต่าง ๆ Families ที่ได้นำเข้ามาในการสร้างอาคารนี้ด้วยใน ใน Revit Architecture 2010 นี้สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ตามที่เราต้องการครับลองเปลี่ยนตำแหน่งดูครับ

8.Drawing Area เป็นพื้นที่สำหรับการทำงาน



9.Info Center Menu เป็นแถบเครื่องมือสำหรับการหาข้อมูลต่างๆในโปรแกรมหรือขอความช่วยเหลือตั้งคำถามเกี่ยวกับ คำสั่งที่ต้องการทราบ คล้ายกับการคำสั่ง Help Menu นั่นเอง
10.View Cube เครื่องมือที่ใช้สำหรับควบคุมทิศทางมุมมองแบบ 3 มิติ เช่น Top ,Left ,Front ,Right




11.Status Bar เป็นตัวแสดงผลว่าขณะนั้นใช้คำสั่งอะไรใช้งานอยู่

12.View Control Bar เป็นแถบเครื่องมือที่ช่วยในการประมวลผลบนหน้าจอ มี Scale , Render เป็นต้น

"... ชีวิตเรามีครั้งเดียว ถ้าลงมือทำไปแล้วยืดอกรับ.."

การสร้าง Famili Window tag สัญลักษณ์หน้าต่าง ใน Revit Architecture 2010 ตอน 2

เนื่องจากมาตรฐานแต่ล่ะออฟฟิส สัญลักษณ์ต่าง ๆ ในการเขียนแบบไม่เหมือนกันวันนี้ ผมจะเสนอ วิธี การเพิ่ม Label มาถึงตรงนี้ไม่งงใช่มั้ยครับ เอาเป็นว่าจะให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เราจะเพิ่มค่าที่เราต้องการในสัญลักษณ์เช่น
เราต้องการทราบว่า หน้าต่างที่เราวางไปในแปลนนั้น วงกบล่างสูงจากพื้นเท่าไร วงกบบนสูงพื้นเท่าไร Revit Architecture 2010 สามารถสร้างได้ดังนี้ครับ

1. หลังจาก ใช้คำสั่ง line วาดเพื่อเขียนสัญลักษณ์ หน้าต่าง Window tag ที่ต้องการดังภาพ เมื่อเสร็จแล้วกดคำสั่ง Modify เพื่อจบคำสั่ง หรือ กด Esc จากนั้นใช้ ให้ย้อนกลับไปอ่านการสร้าง Label Type Mark อีกครั้งในบทก่อนนี้นะครับ จากนั้นคลิกที่คำสั่ง Label แล้ว คลิกที่ช่องด้านบน เหนือ W101


2. หลังจากคลิก Label ลงไปในแปลน Revit จะเปิดหน้าต่าง Edit ขึ้นมาอีกครั้ง ในช่องของ Category Parameter เลือกค่าตัวแปลที่ต้องการแสดงความสูงจากพื้นถึงวงกบบน คือ ในที่นี้เลือก Head Height จากนั้นกดคลิก Ad (ลูกศรสีเขียว )เพื่อแสดงใน Label Parameter ในช่องของ Sample Value อาจจะเขียน 1000 เพื่อให้ทราบว่า Head Height นี้ จะแสดงเป็นเลข ความสูงจากพื้นถึงวงกบบนของหน้าต่าง จากนั้นขั้นตอนต่อมาคือ คลิกสัญลักษณ์รูปมือซึ่งนั่นคือ คำสั่ง Edit parameter ‘s unit format หรือ หน่อยที่เราต้องการให้แสดงนั่นเอง



3. โปรแกรม Revit Architecture 2010 จะเปิด หน้าต่างในการกำหนด รูปแบบ ของหน่วย Head Height ขึ้นมา คลิกเครื่องหมาย ถูกออกจาก ช่อง Use Project settings ตรงช่อง Units ปรับให้เป็น Meters เพือให้หน่อยในการทำงานปรับเป็น Millimeters และ ช่อง Roundingปรับให้เป็น to the nearest 10 จากนั้น ตำแหน่ง ต่อมา Unit symbol คลิกเครื่องหมาย ถูกที่ช่อง show + for positive values และ กด OK ดังภาพ


4. เมื่อกลับมาที่หน้าจอการทำงานอีกครั้ง โปรแกรมจะแสดง ตัวอย่างของ Label Head Height ดังภาพ นะครับ จากนั้นคลิกที่คำสั่ง Label อีกครั้ง

5. เมื่อมาถึงตรงนี้วิธีการทำจะคล้าย ข้อ 2 แต่ในช่อง Category Parameter เลือกค่าตัวแปลที่ต้องการแสดงความสูงจากพื้นถึงวงกบล่าง คือ ในที่นี้เลือก Sill Height จากนั้นกดคลิก Ad (ลูกศรสีเขียว )เพื่อแสดงใน Label Parameter ในช่องของ Sample Value อาจจะเขียน 1000 เพื่อให้ทราบว่า Sill Height นี้ จะแสดงเป็นเลข ความสูงจากพื้นถึงวงกบล่าง ของหน้าต่าง จากนั้นขั้นตอนต่อมาคือ คลิกสัญลักษณ์รูปมือซึ่งนั่นคือ คำสั่ง Edit parameter ‘s unit format หรือ หน่อยที่เราต้องการให้แสดงนั่นเอง ขั้นตอนนี้ทำเหมือนข้อ 3 ทุกประการ


6. โปรแกรม Revit Architecture 2010 จะเปิดมาที่หน้าจอการทำงานอีกครั้ง จะเห็นว่า โปรแกรมก็จะสร้าง Window tag ขึ้นมาตามรูปแบบที่เราต้องการ กด Save As ตั้งชื่อที่ต้องการเช่น Window tag 2 จากนั้นจะกลับมาที่หน้าเดิมอีกครั้ง หากเราเปิดงานไว้อยู่แล้วก็สามารถ กด Load in to Project เพื่อนำไปใช้งานใน Project ได้เลย

การสร้าง Famili Window tag in Revit Architecture 2010

เมื่อวานไปดู ลิเวอร์พลู มาครับ มิประทับใจ ฝ่ายการจัดกิจกรรมระหว่างแข่งเท่าไหร่ เฮ้อ แต่ได้ดูนักเตะลิเวอร์พลูตัวเป็น ๆ และได้อยู่ท่ามกลางแฟนบอลทีมเดียวกันนี่มันสุดยอดจริง ๆแต่ทีมชาติก็เชียร์นะครับ ตอนกลับฝนตกเปียกเลยครับ ก็ถือว่าหายกันไป จะเก็บความประทับใจไว้ครับ มาดูเรื่อง Revit Architecture 2010 กันดีกว่าครับในบทนี้ผมจะขอกล่าวถึง Famili Window tag หรือ สัญลักษณ์หน้าต่าง นั่นเอง มาดูวิธีการสร้างไว้ใช้งานกันครับ

1.การทำสัญลักษณ์ หน้าต่าง Window tag เปิดหน้าโปรแกรม แล้ว คลิก Famili >Annotation >M_ Window tag.rfa

2.โปรแกรม Revit จะเปิดหน้าจอสำหรับการทำงานขึ้นมา ในส่วนของ Create หมวด Detail เลือกคำสั่ง line

3.โปรแกรม Revit จะเปิดหน้าต่างเพื่อใช้คำสั่ง line ขึ้นมาใช้เส้นในคำสั่ง Draw วาดเพื่อเขียนสัญลักษณ์ หน้าต่าง Window tag ที่ต้องการดังภาพ เมื่อเสร็จแล้วกดคำสั่ง Modify เพื่อจบคำสั่ง หรือ กด Esc

4.จากนั้น โปรแกรม Revit Architecture 2010 จะเปิด พื้นที่สำหรับการสร้าง Window tag ในส่วนของ Create ขึ้นมาอีกครั้งเลือกคำสั่ง Label ตามเลขที่ 4 จากนั้นวางไว้ตำแหน่งที่ต้องการใช้แสดง สัญลักษณ์ หน้าต่าง Window tag

5.หลังจากคลิก Label ลงไปในแปลน Revit จะเปิดหน้าต่าง Edit Label ในช่องของ Category Parameter เลือกค่าตัวแปลที่ต้องการแสดงในสัญลักษณ์ หน้าต่าง ในที่นี้เลือก Type Mark จากนั้นกดคลิก Ad (ลูกศรสีเขียว )เพื่อแสดงใน Label Parameter ในช่องของ Sample Value อาจจะเขียนคำว่า DW เพื่อให้ทราบว่า Type Mark นี้จะแสดง ประเภทของประตู จากนั้น กด OK


6.Save As ตั้งชื่อที่ต้องการเช่น Window tag จากนั้นจะกลับมาที่หน้าเดิมอีกครั้ง หากเราเปิดงานไว้อยู่แล้วก็สามารถ กด Load in to Project เพื่อนำไปใช้งานใน Project ได้เลย

สำหรับการทำ Door tag ก็มีวิธีการทำแบบเดียวกันนี้นะครับแต่ ช่วงแรกที่เลือก Window tag ให้เลือกเป็น Door tag แทนครับ

ตีแผ่ Ribbon ใน Revit Architecture 2010

Ribbon เป็นเครื่องมือรูปแบบในการทำงานแบบ หมวดหมู่ ตามลักษณะ ของ Workspac ที่เราจะเลือกใช้งาน เช่นเมื่อเรา คลิกเลือกคำสั่ง Wall เครื่องมือ Ribbon ใน Revit Architecture 2010 ก็จะเปิด เครื่องมือที่ใช้สำหรับ การเขียน Wall ขึ้นมาทันที สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้ Revit Architecture มาก่อนอาจจะมีส่วนดีในแง่ของการเริ่มต้นการใช้งานใหม่ แต่สำหรับคนที่เคยใช้ Revit Architecture มาก่อนอย่างเช่นผม พอมาเจอเวอร์ชั่น 2010 อันดับแรก คือ มองหาเครื่องมือที่ใช้งานประจำก่อนเลยครับ
Home เป็นเคื่องมือที่จำเป็นในการใช้งานเมือต้องการสร้าง โมเดลอาคาร ใน Revit Architecture 2010
เครื่องมือที่ใช้บ่อย ๆ คือ Wall ,Door ,Window แต่ที่มีเพิ่มเข้ามาใน เวอร์ชั่น 2010คือ เครื่องมือที่ใช้งานเหมือนกันจะถูกจัดเก็บไว้ด้วยกัน เช่น Column ใน เดิมจะแบ่งเป็นอีก Column Architecture และ Column Structure จะถูกแยกตามหมวดวิธีการใช้งาน เป็นต้น


Insert เป็นเคื่องมือที่จำเป็นในการใช้เพิ่มนำเข้าของ ไฟท์และจัดการไฟท์ที่นำเข้ามาด้วย เช่น คำสั่ง Link CAD นอกจากนี้ยังมีใน Revit Architecture 2010ยังมี คำสั่ง Autodesk Seek ไว้โหลด Families จาก Autodesk แต่เงื่อนไขคือต้องเป็นเครื่องที่มีอินเตอร์เน็ตเท่านั้น

Annotate เครื่องมือที่ใช้สำหรับการเพิ่มรายละเอียดให้แบบอาคารของ Revit ที่จะอยู่ในรูป 2 มิติ เช่น Dimention ระยะ การใส่สัญลักษณ์ ประตู หน้าต่าง เป็นต้น

Modify เครื่องมือที่ใช้สำหรับการแก้ไข ข้อมูล และ องค์ประกอบ ของอาคาร Families วิธีการใช้งาน คือเมื่อต้องการ แก้ไข Floor พื้น ก็คลิกที่ Floor พื้น จากนั้น เครื่องมือที่ใช้สำหรับ Modify Floor พื้น ก็จะขึ้นมา

Massing & Site เครื่องมือสำหรับการสร้างรูปแบบจำลองของอาคารก่อนที่จะทำงานจริง และ รวมถึงเครื่องมือในการสร้าง พื้นที่ก่อสร้างในรูปแบบ 3 มิติ


Collaborate เครื่องมือที่สำหรับการทำงานเป็นทีมทั้งภายใน และ ภายนอก Project เช่น Workset ที่เป็นการทำงานระหว่าง เครื่องตั้งแต่ 2 ขึ้นไปร่วมกันทำงานในไฟท์งาน Project เดียวกัน


View เครื่องมือสำหรับการสร้างมุมมองใหม่ใน Project ที่ทำอยู่ ซึ่งมีทั้ง การสร้างมุมมอง ภายนอก ภายใน และ มุมมองที่เป็นภาพเคลื่อนไหว การทำรูปด้าน การทำรูปตัด การสร้างแบบขยาย


Manage เป็นเครื่องมือสำหรับการตั้งค่าต่าง ๆ ในการทำงานของ ใน Revit Architecture 2010 เช่นการตั้งค่าหน่อยในการทำงาน ตั้งค่าวัสดุ การตั้งค่าสัญลักษณ์

วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ค่อย ๆ ศึกษา คอยหัดใช้เครื่องมือใหม่ ( หน้าตาใหม่ )เดี๋ยวก็เก่งเพราะบางคำสั่งเราไม่ได้ใช้หรอกครับอย่าเพิ่งท้อ สู้ ๆ

CLEAN DAY Autodesk Revit Architect 2010

เมื่อวานเป็นวันทำความสะอาดของแต่ล่ะ Stuio ใน ออฟฟิส ช่วงเช้าทำงานตามปกติ แต่ช่วงบ่ายโมงต้องทำความสะอาดโต๊ะทำงานของแต่ละคนให้สะอาด เวลา ประมาณ 08.25 น. ได้เปิดโปรแกรม Autodesk Revit Architect 2010 ขึ้นมาทำงานตามปกติ ครับ Update Template เข้า Web thaibim ตามปกติเหมือนทุกวัน มีคำถามเกี่ยวกับ การใช้งาน Revit Architect 2010 เกี่ยวกับสัญลักษณ์ Room tag , Window tag , Door tag เข้ามาหลายวันแล้ว แต่ยังไม่มีใครมาตอบให้ และ อีกคำถามหนึ่งก็คือ เจ้า User Interface AutoCAD 2010 ที่เป็นแบบ Ribbon โดยมีลักษณะของการจัดเรียงเครื่องมือที่ใช้ใน โปรแกรม Office ต่าง ๆ ของ Microsoft แต่หากใครเคยใช้ AutoCAD 2009 มาบ้างแล้วคงไม่ประหลาดใจเท่าไหร่ ซึ่งเจ้า Ribbon นี้ก็เป็น เจ้า User Interface Autodesk Revit Architect 2010 เหมือนกัน แต่กับผม งง นิดหน่อยครับ ต้องทำความเข้าใจพักใหญ่เลย อันดับแรกผมก็มองหา เครื่องมือ ที่ผมใช้บ่อย ๆ ก่อนเลยครับ แล้วก็สอบถามผู้รู้ว่า Interface Revit Architecture 2010 ไม่สามารถปรับไปเป็นแบบ Classic เหมือนใน AutoCAD ครับวันนี้ผมเลยจะลองมาอัพเดทว่า Autodesk Revit Architect 2010 มีอะไรอัพเดทหลัก ๆ บ้าง

มาในเวอร์ชั่นนี้ Autodesk Revit Architect 2010 ได้รับการพัฒนาหลาย ๆ อย่าง ความสามารถใหม่คร่าว ๆ ดังนี้ครับ
- การเปลี่ยน UI (User Interface) เป็นแบบ Ribbon แบบที่ Microsoft ดังที่กล่าวมาแล้ว



- มีไฟล์สกุลใหม่ *.adsk เป็นไฟล์มาตราฐานใหม่ที่ใช้ได้กับทุกโปรแกรมในตระกูล Autodesk Autodesk คือสามารถเอาเข้ามาจาก Civil3D และ Inventor



- คำสั่งการทำ Massing ใน Revit Architecture 2010 ที่น่าจะทำให้งานง่ายกว่าเดิม โดยเฉพาะการทำ Free from เพราะจะมี Work plane หรือรูปแบบการขึ้นรูปแบบ เข้ามาช่วย


เท่าที่ดูคร่าว ๆ ก็จะประมาณนี้ แต่หากได้ใช้งานมากขึ้นน่าจะพบอะไรใหม่ ๆ ที่เป็นรายละเอียดมากกว่านี้ ไว้คราวหน้ามาเจาะเจ้าตัว เจ้า User Interface AutoCAD 2010 ที่เป็นแบบ Ribbon แบบเต็ม ๆ กัน