วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Import dwg. File to Revit 2010

1.คลิก Insert tab / Import panel / Import CAD, หรือคลิก Insert tab Link panel / Link CAD.

2. โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างการทำงานของ Link CAD format ขึ้นมาให้คลิกเลือก File DWG. ที่เตรียมไว้จากนั้น
• Current View Only หากคลิกถูก ไฟล์ที่เลือกจะถูกโชว์แค่วิวที่เรากำหนด ( ระดับพื้นชั้น 1 )
• Colors เลือก Invert สีของ Layer จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นสีใน Revit
• Layers เลือก All ทุก Layers ที่ซ่อนอยู่จะถูกโชว์ทันทีเมื่อถูกดึงเข้ามาใน Revit
• Import Units เลือกเป็น millimeters เพื่อปรับสเกลให้เข้ากับการทำงานขอโปรแกรม
• Positioning เลือก Manual – Center ตำแหน่ง
• Place at จะถูกกำหนดโดยอัตโนมัติเป็น ระดับพื้นชั้น 1 กด Open


3.จากนั้นโปรแกรมจะดึง File ที่เป็น DWG.เข้ามาเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับ Revit


4.หลังจากนั้นทำการตรวจสอบ ว่า Scale ถูกต้องหรือไม่ให้ใช้คำสั่ง Dimention ที่ innotation ตรวจสอบระยะว่าถูกต้องเหมือนใน AutoCAD

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Render in Autodesk Revit 2010 ของเก่ามาปรับใหม่


วันนี้อันที่จริงตามตารางจะมีการ Training Advand Revit Architect 2010 แต่ห้องที่จะใช้มีการใช้อยู่แล้ว เลยต้องเลื่อน ไปอีก 1 วัน แต่เมื่อวานมีการ Training Basic Revit Architect 2010 พรุ่งนี้ก็มีนะเหอ ๆ วันนี้ก็เลยเอางานเก่าที่เคยทำใน Revit Architect 2008 มา Render ซะหน่อยผมก็แค่
1.เปิดภาพ 3D view ที่ต้องการที่จะ Render ขึ้นมา
2.คลิกเรียกคำสั่ง Rendering บน View Control Bar หรือ keyboard shortcut RR


3.คลิก Rendering จากนั้นโปรแกรมก็จะทำการ Render โดยจะมีเปอร์เซ็นต์ให้ทราบว่า Render ทำกี่เปอร์เซ็นต์แล้วเมื่อครบ 100 ปอร์เซ็นต์ก็จะได้ภาพขึ้นมาทันที
4.คลิก Save to Project หากต้องการเซฟภาพ Render ไว้ในโปรเจ็ค

5.กด ตั้งชื่อภาพ จากนั้นภาพที่สร้างขึ้นจะไปอยู่ที่ Project Browser อยู่ในหัวข้อ Rendering หากคลิกที่ชื่อ ก็จะภาพที่ Render



วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ลืมฝ้า ไปรึเปล่า Ceiling Plan in Revit Architect 2010

วันนี้ฝนตกตอนเย็น ขณะที่เขียน นี้มันก็ยังไม่หยุดเปิดห้องไม่ได้เพราะฝนสาด ตอนบ่ายออกไปร้านหนังสือ มา กะว่าสิ้นเดือน จะซื้อสัก 2-3 เล่ม ราคาเล่มล่ะ เกือบ 200 บาทต้องอดกี่วันวะเนี้ยะ
เกือบลืมไปเสียถนัดบทก่อน สอนการสร้างแปลนพื้น ใน Revit Architect 2010 ไปแล้ว แต่ดันลืม แปลน ฝ้าไป การเขียนแปลนฝ้าใน Revit Architect 2010 ก็ง่ายมากครับ
ไม่มีอะไรมากถ้าเรามีแปลนพื้นอยู่แล้วก็ทำตามผมดังนี้ได้เลยครับ แต่ถ้าใครคิดว่าจะเปิดฝ้าโล่ง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีแปลนฝ้าก็ข้ามบทความนี้ รอบทความอื่นได้เลยนะครับ

1.สังเกตุที่ Project Browse ใน Floor Cilling จะยังไม่มี แปลนฝ้า



2.และสำหรับ Ceiling Plan วิธีการจะเพิ่ม ใน Project Browse นั้นทำได้โดยการ การ View / Create / Ceiling Plan



3.ในช่อง New RCP จะมีชื่อชั้นที่ คัดลอก อยู๋ให้ คลิกที่ชั้นทั้งหมด กด CTRL จากนั้นกด OK



4.Project Browse ใน Ceiling Plan จะมีชื่อชั้นเพิ่มเข้ามาทันที




วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ถ้าเราสร้าง Grid ไว้ใช้เอง( Grid in RevitArchitect 2010 )

สาเหตุที่เกือบอาทิตย์แล้วไม่ได้มาอัพเดทแล้วเพราะเนื่องจาก ทีมรักแพ้ เปิดมานัดแรกแพ้เลย ครับเฮ้อ มันก็เลยไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเท่าไหร่ แต่ ชีวิตมันต้องก้าวต่อไปครับว่ามั้ยครับ
มาคุยเรื่อง RevitArchitect 2010 กันดีกว่าครับเนอะ หลังจากครั้งที่แล้วได้ สร้าง ระดับชั้น Level ไปแล้ว ครั้งนี้ก็มาถึงคราวของ Grid ใน RevitArchitect 2010 กันแล้วครับอย่าให้เสียเวลาเลยครับเริ่มกันเลย
การเขียน Grid
1. การสร้าง Grid ใน Revit Architect 2010 คลิก Home tab / Datum panel /Grid หรือ Keyboard shortcut GR



2. จากนั้นโปรแกรม Revit Architect 2010 จะเปิด Grid tab / Draw panel จะมีตัวเลือกว่าจะใช้คำสั่งอะไรเลือก คำสั่ง Line ( คำสั่งอื่นจะสอนในบทต่อๆ ไป ครับ )



3. การเขียน Grid เลื่อน เคอร์เซอร์มาในพื้นที่การทำงานหลังการนั้นคลิกซ้ายวางในพื้นที่ใน
การทำงาน ขณะที่เราลากเส้น สังเกตว่าจะมี สํญลักษณ์ของ Grid ติดที่ปลายของเส้น ดังภาพ
และใน สัญลักษณ์นั้นจะมี ตัวหนังสือขึ้นมาโดยอัตโนมัติ


4. การเขียนเส้น Grid ก็ใช้วิธีการเดียวกันกับที่เขียน ในแนวตั้งเพียงแต่เส้นแรกของแนวนอนเราต้องแก้ไขตัวหนังสือ ในหัวสํญลักษณ์ของ Grid เสียก่อนการแก้ไขตัวหนังสือสามารถที่จะนำเลื่อน เคอร์เซอร์มาคลิกซ้ายที่เส้น Grid ที่จะ แก้ไขให้เกิดจะปรากฏเป็นสีแดงที่เส้น Grid คลิกที่ตัวหนังสือแล้วแก้ไขตัวหนังสือใด้เลยดังภาพ


5. จากนั้นเขียนเส้น Grid แนวนอน ให้เสร็จตามแปลนที่ต้องการเพื่อที่จะวางเสาต่อไปดังภาพ เท่านี้ก็ถือว่าเขียน ว่า Gridโปรแกรม Revit Architect 2010 เสร็จแล้วครับ



วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ไม่พอใจชั้นแก้ไขได้นะ ( Edit Level in Revit Architecture 2010 )





วันนี้เป็นแม่ของประเทศไทยเรา ที่ๆผมอยู่นี้ตอนช่วงหัวค่ำ มีการยิงปืน หลายลูกเพื่อเฉลิมฉลองวันแม่ของเรา ครับวันนี้เป็นวันหยุดตอนช่วงช้าจัดห้องใหม่( อีกแล้ว ) ได้อ่านหนังสือ Live Love Laugh ของ a book ที่กัดฟันซื้อเล่มล่ะ 495 บาทแต่ก็ดใจที่ได้ซื้อมาชอบ ๆ วันหลังจะเล่าให้ฟังว่ามันมีไรน่าสนใจในนั้น แต่วันนี้มาคุยเรื่อง Revit Architecture 2010 ดีกว่าถ้าใครได้ลองทำตามเมื่อบทความที่ล้วเกี่ยวกับการสร้าง ชั้น Level ใน Revit Architecture 2010 ไปแล้วอาจจะติดตรงอยากจะแก้ไข สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้งาน Revit Architecture 2010 เริ่มตามผมได้เลย
1.ความสูงของระดับชั้น Level และ ชื่อชั้นต่างๆ นั้น สามารถแก้ไขได้ในภายหลังการแก้ไข สำหรับระดับชั้น Level ใน Revit Architecture 2010 เปิดรูปด้านใด ด้านหนึ่งขึ้นมา แล้วก็คลิกที่ที่ตัวเลขให้กลายเป็น สีน้ำเงิน แล้วใส่ตัวเลขระดับความสูงที่ต้องการได้เลย ชื่อชั้นก็เช่นกันคลิกชื่อเดิมให้กลายเป็น สีน้ำเงิน แล้วใส่ชื่อชั้นที่ต้องการได้เลย ชื่อชั้นใน Project Browse ก็จะปรับตามโดยอัตโนมัติ


2.สังเกตุที่ Project Browse จะมีชื่อชั้นที่ถูกสร้างเพิ่มเข้าไปทันที


3.ชื่อชั้น ทับซ้อน Revit Architecture 2010 กันให้คลิก ที่เส้น ระดับชั้นจากนั้นให้คลิกที่ จุดหักตามภาพประกอบเส้นบอกระดับตรงชื่อชั้น จะ หักหลบลงให้ทันทีตามภาพครับ



4.แต่หากในทางกลับกันหากต้องการให้หักหลบขึ้นด้านบน หลังจากคลิกที่จุดหักตามปกติแล้ว ชื่อชั้นจะหักลง วิธีการแก้ให้หักขึ้นด้านบนคือ คลิกซ้ายที่จุดหักค้างไว้แล้วลากขึ้นได้เลยตามภาพ


5.การคัดลอกเพิ่ม ระดับชั้น Revit Architecture 2010 การคัดลอกเส้นเพิ่มระดับชั้น สามารถทำได้โดยคลิกที่เส้นระดับชั้นจากนั้นให้คลิกคำสั่ง Copy หรือ Shortcut LL บน Modify Levels

6.บน Option bar ให้คลิก ถูกลงในช่อง Multiple เพื่อที่จะคัดลอกได้อีกครั้งโดยไม่ต้องคลิกคำสั่ง Copy อีกครั้ง
จากนั้นดึงระดับชั้นที่ต้องการเพิ่มไปในทิศทางที่ต้องการ เนหากให้สูงขึ้นก็ลากขึ้นด้านบน แต่ หากต้องการให้ระดับชั้นต่ำกว่าระดับชั้นเดิมก็ลากลงใน ทิศทาง ด้านล่าง ( หรือ จะแก้ตัวเลขระดับชั้นในภายหลังก็ได้ )


7.แต่สังเกตุว่าเส้นบอกระดับชั้นเดิมจะ สีน้ำเงิน แต่ตัวที่ เพิ่มมานั้นจะยังสีดำอยู่ และจะยังไม่มีชื่อชั้นที่เพิ่ม เข้ามาใหม่ใน Project Browse

8.วิธีการจะเพิ่ม ชั้น ที่สร้างใหม่ใน Project Browse นั้น ทำได้โดยการ View / Create / Floor Plan

9.ในช่อง New Plan จะมีชื่อชั้นที่ คัดลอก อยู๋ให้ คลิกที่ชั้นทั้งหมด กด CTRL จากนั้นกด OK


10.เส้นบอกระดับชั้น ใน Revit Architecture 2010 จะกลาย สีน้ำเงิน และใน Project Browse ใน Floor Plan จะมีชื่อชั้นเพิ่มเข้ามาทันที


เห็นมั้ยครับระชั้นแก้ไขได้จริง ๆด้วย ไม่พอใจชั้น ชั้นแก้ได้แค่นี้เราก็ไปด้วยกันได้แล้ว ถ้าถามว่าการ์ตูนไปไหน ช่วงนี้มันไปเที่ยวครับยังไม่อยากออกงาน

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

มายุ่งกับ ชั้น Level ใน Revit Architect 2010 มั้ย

ทุกวันนี้ หนู ที่ออฟฟิสมันไม่มาอึทิ้งไว้ บนโต๊ะทำงานเหมือนเก่าเพราะเจอมาตรการเก็บก่อนกลับของผม คือ เคลียย์ทำความสะอาดโต๊ะก่อนกลับบ้าน ทุกครั้งดูว่ามีเศษอาหารเหลืออยู่มั้ยที่เรากินหล่นไว้ ช่วยได้เยอะครับไม่เห็นอึมันอยู่บนโต๊ะผมอีกเลย 555
หลังจากนอกเรื่องกันไปแล้วมาพูดถึง Revit Architect 2010 กันดีกว่าครับ สอนการตั้งค่าในการทำงาน Project Unit ไปแล้ววันนี้จะมาสอนขั้นตอนการเพิ่ม ชั้น Level ใน Revit Architect 2010 กันครับเริ่มกันเลย
1.หากเปิดโปรแกรมข้นมามาตรฐานโปรแกรมจะมีให้แค่ 3 Level ครับ คือ Level 1, Level 2 , และ Level Site ฉะนั้นหากต้องการเพิ่ม ชั้น Level ใน Revit Architect 2010 เปิด North elevation หรือ รูปด้านใดด้านหนึ่งขึ้นมา จาก Project Browse


2.คลิก Home / Datum / Level หรือ Shortcut LL เพื่อเลือกคำสั่งในการสร้างระดับชั้นออกมาใช้งาน


3.ลาก Cursor ในแนวเดียวกับระดับชั้นเดิมที่มีอยู่แล้วโดยลากไปทางขวามือกดคลิกลงไป


4.จากนั้น Revit Architect 2010 ก็จะเพิ่มชั้น Level ให้ทันทีโดย สังเกตุที่ Project Browse จะมีชื่อชั้นที่ถูกสร้างเพิ่มเข้าไปทันทีครับ

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

070809 พักสักวันหนึ่ง

" 070809 หลังจากประชุมเรื่อง Revit Architect 2010 เสร็จ วันนี้ก็แทบไม่อยากทำอะไรต่อแล้ว แต่ก็เขียนรายงานการประชุมไว้นิดหนึ่งกันลืม อีก 2-3 วันค่อยอัพเดท Blogใหม่ดีกว่าวันนี้ขอพักหน่อยดีกว่าครับ "

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

มาเป็นเทพ Revit Architecture 2010 ด้วย Hotkey กันเถอะ

070809 เลขสวย คืนนี้นอนไม่หลับอีกแล้ว น้องที่ออฟฟิสบ อกถ้านอนไม่หลับก็ลุกขึ้นมาทำงานเลยดีกว่า เชื่อมันก็เลยอัพเดท Blog Revitstep ดีกว่า
แทบจะทุกโปรแกรมในการทำงานทุกวันนี้ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ Keyboard shortcut เพื่อทำให้งานสะดวกรวดเร็วขึ้น การใช้ shortcut ในการทำงานนั้นสำหรับเทพโปรแกรมทั้งหลายจะตั้งไว้บ้างก็เหมือนกันบ้างก็ไม่เหมือนกันเวลาที่ดู เทพ ๆ ทั้งหลายใช้ shortcut เคาะแปล้นคีย์บอร์ด ดัง โป๊ก ๆๆ เป๊ก ๆๆ มันเพลินดีเหมือนกันนะครับ วันนี้ผมจะมาบอกวิธีเป็นเทพ Revit Architecture 2010 แบบง่าย ๆ กันเป็นที่รู้ ๆกันนะครับสำหรับคนที่ใช้ Revit ไม่ว่าจะเป็น Revit Architecture, Revit MEP, Revit Structure นั้นจะไม่เหมือน AutoCAD ซึ่งใช้ระบบ Command line แต่ Revit จะใช้ระบบ Hotkey แทน ใครที่ใช้ Revit มาแล้วผ่าน บทความนี้ไปได้เลยนะครับ อันนี้จะแนะนำมือใหม่ครับ เริ่มกันเลยครับ


1.ก่อนที่จะตั้ง Hotkey อย่าเพิ่งเปิดโปรแกรม Revit Architecture, Revit MEP, Revit Structure ขึ้นมานะครับ จากนั้นไปที่ ตำแหน่งที่ลงโปรแกรม ( บางคนอาจจะลงที D:\ เพื่อประหยัดเนื้อที่ของ ฮาร์ดดิส แต่ผลที่จะตามมาคือการเปิดโปรแกรมจะช้ากว่าการติดตั้งที่ C:\ ครับจากการเจอกับตัวเองและผู้รู้ครับ ) C:\Program Files\Revit Architecture 2010 \Program แล้วมองหา ไฟล์ KeyboardShortcuts.txt ดับเบิ้ลคลิกที่ ไฟล์ เข้าโปรแกรม Notepad เพื่อทำการแก้ไข

2.จากนั้นเรามารอง เลื่อนเมาท์มาที่ ; "" ribbon:"Home-Build-Floor-Floor"
3.Notepad แสดงถึง Hotkey ที่เป็นตัวสั่ง Command อยู่ โดยจะเป็นตัวอักษร อยู่ระหว่างเครื่องหมายอัญประกาศ (" ") และไม่มีเครื่องหมายเซมิโคลอนอยู่ข้างหน้า (;) เรามาลองเพิ่ม Hotkey ลงในคำสั่งสร้างพื้น (Floor) แก้ไขดังภาพประกอบ คีย์ FF เพื่อทำการ ใส่ Hotkey ที่ต้องการ Command วิธีทำคือ ใส่ FF ลงไประหว่าง " " และลบ เซมิโคลอน (;) ทิ้ง save ทับ เปิดโปรแกรมขึ้นเพื่อทดสอบ Revit Architecture 2010
4.หลังจากเปิด Revit Architecture 2010 ไปที่ Tab Home \ Build Panel \F loor จะเห็น Hotkey ของ Floor เป็น FF ทันที



5.ทดสอบคีย์ FF สังเกตุ ที่ เมื่อคีย์ F ลงไป Status Bar โปรแกรม Revit Architecture 2010 จะบอกว่ามีการใช้คำสั่งอะไรต่อจาก F เช่น ถ้าคีย์ F ลงไป ก็จะเป็น FF ซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสร้าง พื้น โดยทันที



6.จากนั้นโปรแกรม Revit Architecture 2010 จะเปิด Create Floor Boundary ขึ้นมาทันที




การแก้ไข Hotkey ในโปรแกรม Revit Architecture 2010 นั้นจะเห็นว่าง่ายมากไม่ยากเกินที่มือใหม่จะลองทำดู แค่นี้เราก็สามารถที่จะเป็นเทพ Revit Architecture 2010 ด้วย Hotkey แต่ไม่ใช่ว่าแก้ไขอย่างเดียวนะครับต้องจำที่แก้ไขด้วย ไม่งั้นก็เป็นเทพ ไม่ได้นะครับ สุดท้ายนี้ TIP นี้สามารถใช้ได้กับ Revit MEP, Revit Structure ด้วยนะครับ

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

THAIBIM และ กำเนิด MR. Revit Architecture 2010


เช้ามาเข้า ออฟฟิส เว็บ ๆ แรกที่เปิดคือ เว็บนี้แหละครับ THAIBIM ส่วนใหญ่หนักไปทางอ่านมากกว่า และ ตอบบ้างนาน ๆ ครั้งเหอ ๆ คือ ประมาณว่า ออน ไว้แต่ไม่ได้ทำอะไรเลยซะมากกว่า ก็จะได้ เทคนิค ทริป ที่ไม่รู้ที่มาใช้เสมอเพื่อมาอัพเดท การใช้งาน Revit Architecture 2010 ดีใจกับเว็บที่มีคนเยอะมากขึ้นทุกวัน เลย

วันนี้ขอ เขียนเรื่องเบา ๆ อีกเรื่องนะครับ เนื่องจากมีประเด็นหนึ่งที่ได้คุยกันกับน้องที่ออฟฟิส บอกว่าเนื้อหา สอนการทำงานของ Revit Architecture 2010 นั้นมันออกมาแบบวิชาการ ตัวหนังสือเยอะ ๆ อ่านแล้วมันเบื่อ ไม่จูงใจ ให้น่าสนใจเท่าไหร่ น่าจะมี ตัวการ์ตูน หรือ รูปภาพ กราฟฟริก อธิบายแทรกน่าจะดีกว่าเดิม เลยมีการร่างแบบขึ้นมาครับการ์ตูนตัวนี้ผมขอตั้งชื่อว่า MR. Revit Architecture 2010 ครับร่างให้น้องที่ออฟฟิสเขียนให้อันนี้ขอเป็นเวอร์ชั่น Blog แล้วกันนะครับ

“ หน้าที่เหนือเหตุผล ”

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การตั้งค่าการทำงาน Project Units ใน Revit Architecture 2010

ช่วงนี้มาทำงานสาย 2 วันติดเลยครับ วันแรกไปธนาคาร วันที่สองตื่นสาย มัวแต่รีดผ้าอยู่ มองนาฬิกา อ้าว 8.15 น. แล้วครับพี่น้อง รีบออกจากห้องเลยครับเฮ้อ ถึง ออฟฟิส วันนี้เกือบ 9.00 น. จำได้ว่าถึงตอน 8.48 น. ครับ
มาเข้าเรื่อง Revit Architecture 2010 กันดีกว่าครับนอกเรื่องมาพอสมควรล่ะ ในการทำงานทั่วไปเราอาจต้องปรับหน่อยในการทำงานเสียก่อนเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ถ้าใครไม่มี Template ที่สร้างไว้อยู่แล้วก็ทำตามผมได้เลยครับ แต่ถ้าหากใครเคย ตั้งค่า การทำงาน Project Units มาแล้วใน Revit Architecture 2009 ก็จะพบว่าเหมือนกันเลยนะครับจะต่างกันนิดหน่อยในการเข้าไปตั้งครั้งแรกเท่านั้นเองครับ

1.หลังจากเปิดไฟล์ใน Revit Architecture 2010 งานขึ้นมาใหม่แล้ว ให้ไปที่ Tab Manage ,Project Units, หรือ keyboard shortcut UN ดังภาพ


2. หลังจากนั้นจะเกิด Project Units Browser คลิกที่ Format ในช่อง Length เพื่อที่จะปรับให้หน่อยในการทำงานของ Revit Architecture 2010
3. ตรงช่อง Units ปรับให้เป็น Meters เพือให้หน่อยในการทำงานปรับเป็น Meters และ ช่อง Rounding
ปรับให้เป็น 2 decimal places เพื่อปรับค่าจุดทศนิยมเป็น 2 ตำแหน่ง และ กด OK ดังภาพ



เห็นมั้ยครับไม่เห็นยากเลยแค่ไม่กี่นาทีเราก็สามารถตั้งค่าในการทำงาน Project Units ของ Revit Architecture 2010 นี้ได้แล้วครับ
... ร้อยคำพูดดี ๆ ไม่เท่า หนึ่ง สัมผัสที่มีค่า...

googleFORHOME

google support